วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

โครงงานสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล

                                                                บทนำ
      
      น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตในโลกของเรา จะมีน้ำมากกว่าพื้นดิน ประมาณ 3:4 โดยมากจะเป็นมหาสมุทรขนาดใหญ่ เช่น มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลนานาชนิด คณะผู้จัดทำ จึงมีความสนใจที่จะศึกษาเรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล แหล่งที่อยู่สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ความสำคัญของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล และได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องระบบนิเวศวิทยาทางทะเล เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เหมาะแก่การศึกษา และ เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ศึกษา โดยสามารถนำสิ่งที่ศึกษามาเผยแพร่ เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมากขึ้น

      กลุ่มของพวกเราจึงนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้มามาประยุกต์ใช้ทำเป็น  เว็บบล็อก(WebBlog) ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป blogger เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เพราะเด็กไทยส่วนใหญ่ชอบที่จะใช้อินเทอร์เน็ตในการทำกิจกรรมต่างๆไม่ว่าเป็น ฟังเพลง เล่นเกมส์ ดูหนัง หรือ ใช้ในการหาความรู้ต่างๆ ซึ่งการทำเป็นสื่อในอินเตอร์เน็ตก็จะทำให้ผู้ศึกษาเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น และสามารถนำข้อมูลจากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย ภายในเว็บบล็อก จะบรรจุไปด้วยเนื้อหาสาระสำคัญของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ทั้งประวัติความเป็นมา ความสำคัญ ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล และเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ที่สามารถที่จะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก และ เยาวชน ผู้ปกครอง และบุคคลอื่นๆโดยทั่วกัน


                                                                วัตถุประสงค์
1.     เพื่อศึกษาสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
2.     ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
3.     เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
สมมติฐานของการศึกษาโครงงาน
     เด็กไทยได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลลึก
ขอบเขตของโครงงาน
1.     1.จัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger เรื่องสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ประเภทพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
2.     วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่
2.1 คอมพิวเตอร์ เชื่อมอินเทอร์เน็ต
2.2  เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ https://www.blogger.com
2.3 Microsoft Word ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
2.4 เครื่องพิมพ์ ในการพิมพ์รูปเล่มโครงงาน


                                                           ผลที่คาดว่าจะได้รับ 
1.     ได้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ใต้ท้องทะเลลึก
2.     สามารถพัฒนาต่อยอดในการศึกษาได้
3.     เป็นแหล่งความรู้ที่ง่ายต่อการค้นหา
4.     ได้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ
5.     ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นำมาเป็นบทเรียนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่องสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
6.     ได้รับความรู้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ เรื่อง  สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล


บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
     ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger
เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล นี้  ผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชิวตใต้ท้องทะเล
2.2 ความสำคัญของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
2.3 ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล
2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชิวิตใต้ท้องทะเล

สิ่งมีชิวิตใต้ท้องทะเล สามารถแบ่งแหล่งที่อยู่ได้เป็น 7 หัวข้อใหญ่ ได้แก่
2.1.1 สัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตนํ้าขึ้นนํ้าลง
 2.1.2 ปลาในแนวปะการัง
2.1.3 การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต
2.1.4 สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังนํ้าเค็ม
 2.1.5 ปลาเศรษฐกิจ สามารถแบ่งออกเป็น 2 พวก คือ
·        พวกที่นำมาเป็นอาหาร
·        พวกที่นำมาเลี้ยงเพื่อความสวยงาม
2.1.6 ปลารูปร่างแปลกและปลามีพิษ
2.1.7 ปลาที่อาศัยในมหาสมุทร 

2.2 สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
สัตว์ทะเล
ฟองน้ำทะเล 
ฟองน้ำฟองน้ำเป็นสัตว์ทะเลประเภทหนึ่งมีเซลล์จัดเรียงตัวกันอย่างหลวมๆสองชั้น  รูปร่างมีความต่างกันมาก  บางชนิดแผ่คลุมไปบนพื้นหินและซอกปะการัง  บางชนิดเป็นรูปเจกันคล้ายครก    ขนาดของฟองน้ำมีความแตกต่างกัน   บางชนิดเล็กประมาณ  1  เซนติเมตร  จนถึงขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร  อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่มีพื้นสภาพต่างกัน เพศผู้และเพศเมีย  อยู่ภายในตัวเดียวกันแต่เซลล์สืบพันธุ์ทั้งสองเพศ 

ขนนกทะเล
ขนนกทะเลจัดอยู่ในกลุ่มซีเลนเตอเรทพวกไฮโตรซัวอาศัยอยู่รวมเป็นโคโลนีที่แตกกิ่งก้านคล้ายกิ่งไม้เล็กๆหรือแตกแขนงคล้ายขนนกตัวขนนกทะเลแต่ละตัวเป็นโพลิปขนาดเล็ก  โพลิปจะกินอาหารจำพวกแพลงตอนขนาดเล็กหรืออินทรียวัตถุที่ล่องลอยอยู่ในทะเล    ขนาดของขนนกมีความแตกต่างกัน  ส่วนใหญ่โคโลนีที่คล้ายกิ่งไม้มีความสูงประมาณ  30  เซนติเมตร  อาศัยเกาะอยู่ตามปะการังต่างๆ   ขนนกทะเลเป็นสัตว์มีพิษหากสัมผัสกับผิวหนังของเรา  จะทำให้เกิดรอยไหม้เป็นผื่นคัน  เนื่องจากเข็มพิษจากโพลิปของขนนกทะเลมีน้ำพิษอยู่ด้วย 


ปะการังไฟ
ปะการังไฟเป็นไฮโครซัวชนิดหนึ่งพวกเดียวกับขนนกทะเลและสร้างฐานรองรับเป็นหินปูนแข็งและสร้างฐานรองรับโพลิปเป็นหินปูนแข็ง  ตัวโพลิปปะการังไฟมีรูปร่างสองแบบ    แบบหนึ่งหนึ่งทำหน้าที่จับเหยื่อกินอาหารและมีหนวดเรียกว่าแดดทิลโลซูออยด์  และอีกแบบที่ไม่มีหนวด  มีหน้าที่รับความรู้สึกสัมผัสและสร้างเข็มพิษ   ใช้สำหรับฆ่าเหยื่อหรือป้องกันตัว  โพลิปแบบนี้เรียกว่าแดดซิลโซลูออยด์  เมื่อเราไปสัมผัสปะการังไฟ  น้ำพิษจากเข็มพิษจึงทำให้เกิดอาการคันได้


แมงกะพรุน
แมงกะพรุนทั่วโลกมีอยู่  200 ชนิด  เป็นสัตว์มีโพรงในลำตัว  ร่างกายประกอบไปด้วยน้ำส่วนใหญ่ ลักษณะคล้ายก้อนวุ้นเคลื่อนที่ได้  แต่การว่ายน้ำแบบเคลื่อนที่ของแมลงกระพรุนเป็นไปอย่างเชื่อช้าและว่ายไปตามกระแสน้ำสุดแต่คลื่นลมจะพาไป  แมงกะพรุนถูกจัดเป็นแพลงตอนชนิดหนึ่งและนับเป็นแพลงตอนขนาดใหญ่  บางตัวมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 40 เซนติเมตร  การที่แมงกะพรุนดำรงชีวิตเป็นแพลงตอนและล่องลอยไปตามคลื่นลมนี้เอง  ช่วงฤดูร้อนที่มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าสู่ภาคตะวันออกของอ่าวไทย  จึงมีแมงกะพรุนชุกชุมอยู่ตามชายทะเลแถบภาคตะวันออกดังนั้นการเล่นน้ำตามสถานตากอากาศแถบบางแสน  พัทยา  ระยอง  จึงอาจถูกแมงกะพรุนไฟได้  รูปร่างแมงกะพรุนมีลักษณะคล้ายร่ม ทางด้านนอกของร่มเป็นรูปโค้งผิวเรียบ  ด้านใต้มีปากอยู่ตรงกลางและมีส่วนยื่นรอบปากออกไป  แมงกะพรุนทุกชนิดมีพิษพบมากบริเวณหนวดและส่วนยื่นรอบปาก    เมื่อได้รับการกระตุ้นโดยการสัมผัส  เข็มพิษจะถูกปล่อยออกมาคล้ายฉมวกพุ่งแทงเข้าไปที่ผิวหนังของเหยื่อหรือศัตรู  น้ำพิษที่อยู่ภายในกระเปาะอาจทำให้เหยื่อขนาดเล็กสลบและตายได้    ตามปกติแมงกะพรุนเป็นสัตว์กินเนื้อ  อาหารที่กินได้แก่  ปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กที่อาศัยตามผิวทะเลโดยแมงกะพรุนใช้เข็มพิษฆ่าเหยื่อ  และรวบจับใส่ปากเข้าไปย่อยภายในท่อทางเดินอาหาร  ส่วนกากอาหารที่ย่อยไม่ได้จะถูกคายทางปาก   แมงกะพรุนส่วนใหญ่มีเพศแยกกันเป็นตัวผู้และตัวเมีย  แต่ต่างจากรูปร่างภายนอกไม่ปรากฏลักษณะที่แตกต่างกันชัดเจน  การผสมพันธุ์เกิดโดยตัวผู้สร้างเสปิร์มส่งออกไปผสมกับไข่ตัวเมีย  หรืออาจเป็นการผสมกันภายนอกลำตัว  ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะเจริญพัฒนาเป็นตัวอ่อน  ดำรงชีวิตเป็นแพลงตอนชั่วคราว  แล้วจากนั้นจะว่ายไปเกาะพื้นเปลี่ยนรูปร่างเป็นโพลิปสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศด้วยการแบ่งตัวออกเป็นชั้นๆ  หลุดไปเป็นแมงกระพรุนตัวเล็กๆแล้วเติบโตเป็นตัวเต็มไว้ในเวลาต่อมา  (สุรินทร์ มัจฉาชีพ,2518)

ดอกไม้ทะเล
ดอกๆไม้ทะเลจะมีรูปร่างเป็นทรงกระบอก  มีหนวดจำนวนมากเรียงรายกันอยู่ด้านบน  ส่วนทางด้านล่างเป็นฐานใช้ยึดเกาะติดกับวัตถุใต้น้ำ  ขนาดของดอกไม้ทะเลแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตั้งแต่ตัวเล็กกว่า 1 เซนติเมตร จนถึงขนาดใหญ่กว่าครึ่งเมตร  อาหารของดอกไม้ทะเลได้แก่  ปลาหรือสัตว์ทะเลชนิดอื่นที่ว่ายเข้ามาในระยะที่หนวดจับได้  ดอกไม้ทะเลจะปล่อยนีมาโตซีสออกมาทำให้เหยื่อสลบ  แล้วรวบเข้าปากที่อยู่ตรงกลาง  ดอกไม้ทะเลนั้นจะมีถิ่นที่อยู่อาศัยแตกต่างกัน  บางชนิดที่อยู่ในเขตน้ำขึ้นน้ำลงจะมีความทนทานต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ดีทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงความชื้น  ความเค็มและอุณหภูมิรวมทั้งความสามารถในการอยู่บนบกได้เป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมงขณะที่น้ำทะเลลดลงด้วย  เราจึงมักพบดอกไม้ทะเลเกาะอยู่ตามก้อนหินริมชายฝั่งโดยหดตัวเป็นก้อนกลม  เพื่อรอให้น้ำทะเลท่วมบริเวณที่อาศัยอยู่อีกครั้งหนึ่ง




กัลปังหา
 กัลปังหา  กัลปังหาเป็นสัตว์ทะเลพวกเดียวกับปะการัง  ทุกชนิดอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนีแตโพลิปมีหนวดแปดเส้นรอบปาก  หนวดแต่ละเส้นมีแขนงแตกออกคล้ายใบปรงหรือเฟริ์น  กัลปังหากินแปลงตอนเป็นอาหาร  โดยใช้หนวดรวบใส่ปากตรงกลาง  การย่อยเกิดในกระเพาะที่มีลักษณะเป็นถุง  หลังจากย่อยแล้งกากอาหารจะถูกคายออกทางปาก  กัลปังหานั้นจะอาศัยอยู่ตามแนวปะการังหรือกองหินใต้น้ำเท่านั้นเพราะต้องการยึดเกาะกับพื้นแข็งแต่จะไม่สามารถงอกอยู่ที่พื้นทรายหรือโคนได้  และการที่กัลปังหามีการแตกกิ่งก้านออกไป  สัตว์หลายชนิดจึงมักมาอาศัยพึงพาอยู่กับกัลปังหา เช่นปลาสลิดหินขนาดเล็ก  ใช้เป็นที่หลบกำบังศัตรู  หอยสองกาบใช้กัลปังหาเป็นที่ยึดเกาะ  ดาวตาข่าย  ดาวขนนก  กุ้งขนาดเล็ก  ใช้กัลปังหาเป็นที่เกาะสำหรับคอยดักจับอาหารที่ลอยมากับน้ำ 
ปากกาทะเล
มีลักษณะใกล้เคียงกับปะการังอ่อน  ปากกาทะเลทุกชนิดอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนีเช่นเดียวกับกัลปังหาและปะการังอ่อน  ด้านล่างเป็นด้ามใช้สำหรับฝังลงในพื้นทะเลที่เป็นดินโคลน  หรือโคลนปนทราย  ส่วนบนที่อยู่ของโพลิบรูปร่างเป็นทรงกระบอก  สามารถยืดหดตัวจากเนื้อเยื่อของโคโลนีเพื่อจับเหยื่อ  แต่ละโคโลนีมีโพลิปหรือตัวปากกาทะเลนับร้อยตัว
แม่เพรียง
 เป็นหนอนปล้องที่มีลำตัวเรียวยาว  ร่างกายค่อนข้างแบนออกเป็นปล้องจำนวนมาก  ด้านหน้ามีลักษณะคล้ายหัวโดยมีปากและเขี้ยว 1 คู่ที่ปาก  มีอวัยวะรับสัมผัสคล้ายหนวด  ถัดจากหัวและลำตัวมีลักษณะเป็นปล้องขนาดเท่าๆกัน  อาหารที่แม่เพียงชอบกินได้แก่สาหร่ายทะเล  เศษอินทรีย์ตามพื้นทะเล  แม่เพรียงเป็นสัตว์แยกเพศแต่ละตัวมีเพียงเพศเดียวโดยอาจมีการเปลี่ยนรูปร่างและสีของลำตัวในช่วงฤดูผสมพันธุ์  บางชนิดมีการปล่อยร่างกายตอนปลายที่มีเซล,สืบพันธุ์ให้หลุดขาดออกไปทำให้เซลล์สืบพันธ์ผสมกันในน้ำทะเล 
หนอนดอกไม้
หนอนดอกไม้เป็นหนอนปล้องที่มีลำตัวเป็นท่อนยาวแบ่งออกเป็นปล้องชัดเจน  มีการสร้างหลอดด้วยตะกอนดินหรือเศษวัสดุเล็กๆตามพื้นทะเล  บางชนิดสกัดสารออกมาละลายหินปะการังแล้วฝังตัวอยู่ภายใน  ช่อพู่ขนของหนอนดอกไม้หลายชนิดมีสีสันสวยงาม  หลากสี  นอกจากพู่ขนแล้วหนอนดอกไม้บางชนิดมีงวงยื่นออกมาจากหลอดทำหน้าที่ปิดปากหลอดขณะที่หดตัวเอาพู่ขนหลบเข้าไปข้างใน  การทำงานของงวงปิดหลอดนี้มีรูปแบบคล้ายกับหอยกาบเดี่ยวที่มีแผ่นฝาปิดปาก  เมื่อหดตัวเข้าไปอยู่ภายในเปลือก  หนอนดอกไม้เป็นสัตว์แยกเพศ  การปฏิสนธิระหว่างเสปิร์มกับไข่เกิดภายนอกลำตัวโดยการผสมกันในน้ำทะเล  (สุรินทร์ มัจฉาชีพ,2518)

ลิ่นทะเล
ลิ่นทะเลเรียกอีกอย่างว่า หอยแปดเกล็ด”  จัดเป็นสัตว์ที่มีลำตัวอ่อนนิ่มหรือมอลลัสเช่นเดียวกับหอยและหมึกทั่วไป  รูปร่างคล้ายกับทากดิน  ไม่มีส่วนหัวและห่างที่ชัดเจนลำตัวเป็นรูปไข่  ด้านบนโค้งนู้น  และมีเปลือกคล้ายเกล็ดจำนวน 8 แผ่นเรียงซ้อนกันจากด้านหน้าไปยังด้านท้ายคล้ายกระเบื้องมุงหลังคายกเว้นบางชนิดเกล็ดอาจเรียงต่อกันเป็นแถวๆรอบๆเกล็ดเป็นแมนเทิลที่ปกคลุมด้วยหนามสั้นๆ  ด้านล่างตรงกลางมีกล้ามเนื้อเท้ารูปไข่เป็นพื้นแบนเรียบช่วยในการเคลื่อนที่  ปากของลิ่นทะเลอยู่ด้านหน้า  ภายในปากมีแผ่นลิ้นใช้ในการขูดสาหร่าย  ไลเคนซ์กินอาหาร  ที่อยู่ของลิ่นทะเลสามารถพบได้ตามโขดหินริมชายฝั่งทะเลและรอบเกาะ 




ทากทะเล
ทากทะเลเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกหอยกาบเดียวมีรูปร่างลีสันที่แปลกตา   จึงได้รับสมญานามว่า  ราชินีแห่งท้องทะเล  ทากทะลอาศัยอยู่ตามแนวปะการังที่มีฟองน้ำหรือสาหร่ายทะเลชุกชุม  เพราะฟองน้ำเป็นอาหารที่ทากชอบกิน ทากชอบกินอาหารที่มีรสและกลิ่นที่ไม่ค่อยเหมือนสัตว์อื่น  ทากทะเลสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศบางชนิดมีทั้งเพศเดียวกันในตัวเดียวกัน  บางชนิดแยกเพศ 
หอยฟองน้ำ
หอยฟองน้ำหรือที่เรียกทั่วไปว่าหอยม่วง  จัดอยู่ในกลุ่มหอยกาบเดี่ยว     รูปร่างคล้ายหอยโข่ง  มีเปลืองม่วงขนาดประมาณ  2-3 เซนติเมตร  เป็นหอยที่สร้างฟองอากาศเป็นทุ่นลอยตัวไปตามผิวทะเลและจัดเป็นแพลงตอนชนิดหนึ่ง  เมื่อถูกคลื่นลมพัดเข้าสู่ชายฝั่ง  จึงถูกซัดขึ้นมาเกยแห้งอยู่บริเวณริมหาด  พบอยู่ทั่วไปตามทะเลเขตร้อน  หอยฟองน้ำเป็นสั่ตว์กินเนื้อ  ขณะที่ล่องลอยไปตามผิวทะเลจะจับแพลงตอนสัตว์อื่นๆกินเป็นอาหาร  เช่นแมงกระพรุนเหรียญ 
 หอยเต้าปูน
หอยเต้าปูนหรือหอยมรณะ  มีลักษณะเป็นรูปกรวย  คล้ายถ้วยไอติมโคลนเปลือกมักหนาและหนัก  หอยชนิดนี้ชอบล่าสัตว์กินเป็นอาหาร  โดยอาศัยพิษจากภายในลำตัวฆ่าเหย่อให้ตายก่อนจับกินเป็นอาหาร  พิษของหอยเต้าปูนเป็นสารประกอบจำพวกโปรตีนในถุงน้ำพิษ  บีบตัวส่งไปทางท่อน้ำพิษผ่านไปยังคอหอยซึ่งมีแผงฟัน  ทำให้น้ำพิษเคลือบเข็มพิษซึ่งจะพุ่งออกไปคล้ายฉมวก  หอยเต้าปูนมีมากกว่า 400 ชนิดทั่วโลก  พบอาศัยอยู่ในมหาสมุทรต่างๆ  โดยเฉพาะเขตอินโดแปซิฟิกรวมทั้งในน่านน้ำไทยด้วย  หอยเต้าปูนที่มีพิษได้แก่  หอยเต้าปูนลายผ้า  หอยเต้าปูนลายแผนที่  หอยเต้าปูนลายหินอ่อนเป็นต้น 


หอยแต่งตัว
หอยแต่งตัวเป็นหอยกาบเดียวรูปฝาชี  มียอดเป็นมุมป้าน  รูปร่างคล้ายหมวกเวียดนาม  จัดอยู่ในวงเดียวกับหอยหมวก    เปลือกมักมีสีครีมและสีเหลืองอ่อน  และมีเปลือกหอยชนิดอื่นติดไว้ตามเปลือกของตัวเอง  พฤติกรรมนี้เป็นการกระทำเพื่อปรับตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่หอยชนิดนี้อาศัยอยู่ตามแนวปะการังที่มีเศษวัสดุจำวกเปลือกหอยหรือซากปะการังกองทับถมกันอยู่  หอยแต่งตัวพบใกล้ชายฝั่งบริเวณแนวปะการังมีอยู่ไม่มากนัก 
ดาวทะเล
ดาวทะเลเป็นสัตว์มีหนาม  ร่างกายจะประกอบไปด้วยแผ่นกลางลำตัวและแขนที่ยืนออกไปจากส่วนกลางเป็นรัศมี  จำนวนแขนของดาวทะเลส่วนใหญ่มี 5 แฉก   น้อยมากที่จะพบ 8 แฉก    ตามผิวของลำตัวจะมีหนามขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน  มีปากอยู่ตรงกลางด้านล่าง  ดาวทะเลเคลื่อนที่โดยอาศัยท่อน้ำทำให้เกิดแรงดันเข้าไปในเท้าท่อ  ระบบท่อน้ำประกอบไปด้วยท่อตะแกรงอยู่บนแผ่นกลางตัวระหว่างแขนคู่หนึ่ง  น้ำแนวรัศมีจะไหลลงสู่ท่อน้ำวงแหวนและแยกออกไปในแนวรัศมีสู่เท้าท่อที่ยืดหดได้     ตรงปลายของเท้าท่อมีปุ่มดูดช่วยในการยึดเกาะได้ดี  การเคลื่อนที่ของดาวทะเลเป็นไปอย่างเชื่องช้า  อาหารที่ดาวทะเลกินคือ  เนื้อสัตว์ตามพื้นทะเล  ดาวทะเลหายใจโดยใช้เหงือกที่เป็นลักษณะกลุ่มขนสั้นๆอยู่รวมกันเป็นกระจุก  ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนกับน้ำทะเล  ดาวทะเลสามารถอดอาหารนานๆได้  หากถูกทำร้ายจนร่างกายแยกออกเป็นสองส่วน  ส่วนที่ขาดไปสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ 






เม่นทะเล
 เม่นทะเลเป็นทรงกลม รูปไข่  ภายนอกมีหนามอยู่รอบๆอาศัยอยู่ที่พื้นทะเลใต้น้ำตื้นบ้างลึกบ้างตามก้อนหินหรือแนวปะการังชอบพรางตัวอยู่บริเวณปะการังที่ตายแล้วมีหนามจำนวนมากขนาดยาวสั้นไม่เท่ากันเพื่อเป็นอาวุธป้องกันตัว  เม่นทะเลเคลื่อนที่ได้ช้าๆชอบไต่ไปตามก้อนหิน  อาหารของเม่นทะเลคือ  สาหร่ายที่เกาะติดอยู่ตามก้อนหินหรือแนวปะการัง  หนามของเม่นทะเล  มีฐานเป็นรูปถ้วยยืดติดอยู่กับปมบนแผ่นเปลือกทำให้หนามเคลื่อนไหวไปมาได้ทุกทิศทางหนามแหลมด้านบนของตัวเม่นทะเลมีขนาดยาวกว่าหนามด้านล่างหลายเท่า  ส่วนหนามที่อยู่ด้านล่างของลำตัวจะสั้นกว่า  ช่วยในการเคลื่อนที่  (สุรินทร์ มัจฉาชีพ,2518)
ปลิงทะเล
ปลิงทะเลเรียกอีกอย่างว่าแตงกวาทะเล เพราะลำตัวเป็นท่อนสั้นบ้างยาวบ้าง  อ่อนนุ่มยืดหดได้  บางชนิดมีหนามแข็งบริเวณผิวหนัง  ด้านปากถือว่าเป็นส่วนหัว  โดยมีหนวดอยู่รอบปากใช้ในการจับเหยื่อและอาหาร  ส่วนอีกด้านจะเป็นด้านที่เอาไว้ขับถ่าย  ปลิงทะเลบางชนิดกินอินทรียวัตถุบางชนิดกินแพลงค์ตอนและสารแขวงลอยในน้ำ  ปลิงทะเลส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลน  หรือดินทราย  แต่ละชนิดจะเลือกถิ่นที่อาศัยต่างกันไป  ปลิงทะเลเมื่อถูกรบกวนจะปล่อยเส้นใยสีขาวที่เรียกว่า  ท่อของคูเวียร์ออกมาป้องกัน  เพื่อทำให้ศัตรูตกใจหรือพันลำตัวของศัตรู  เส้นใยนี้จะเหนียวเมื่อผสมกับน้ำทะเล

ดาวขนนก
ดาวขนขนมีรูปร่างที่คล้ายกับต้นปรง  ร่างกายประกอบด้วยแผ่นกลางตัวขนาดเล็กและมีแขนยื่นยาวออกไปโดยรอบ  แต่ละแขนจะมีแขนงแยกออกไปคล้ายใบ  ด้านล่างจะมีแขนงยื่นออกไปทำหน้าที่ยึดเกาะกับพื้นและจะเคลื่อนย้ายที่อยู่ในอย่างเชื่องช้า  แต่ปกติมักจะอยู่กับที่  ดาวขนนกกินแพลงตอนและสารอินทรีย์ในน้ำทะเลเป็นอาหาร  โดยการใช้แขนงบนแขนรวบรวมอาหารให้เคลื่อนที่จากร่องแขนลงสู่ปากที่อยู่ตรงกลางของแผ่นกลางตัว  ส่วนใหญ่ดาวขนนกนั้นจะอาศัยอยู่ตามแถวแนวปะการัง  โดยจะเกาะอยู่บนปะการัง บางครั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันหลายตัว

กั้งตั๊กแตน
กั้งตั๊กแตนเป็นสัตว์กินเนื้อ  ล่าเหยื่อโดยการใช้ก้ามเกี่ยว  อาหารของกั้งได้แก่  พวกกุ้งหอย ปลาตัวเล็กๆ  กั้งแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่ที่แตกต่างกัน  โดยกั้งจะขุดรูที่มีทางออกทางเข้าได้ทั้งสองทางซึ่งต่างจากกุ้งตรงที่มักจะฝังตัว กั้งจะเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆเพราะไม่ชอบว่ายน้ำ  แต่ถ้าเมื่อไรที่กั้งถูกรบกวนก็จะงอตัว 

 ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างปูกับกุ้ง   กระดองของปูเสฉวนนั้นจะมีความยาวมากกว่าความกว้าง  ก้ามสองข้างไม่เท่ากัน ปูเสฉวนจะอาศัยอยู่ในเปลือกหอยขนาดที่พอเหมาะกับลำตัวได้แค่ชั่วเวลาหนึ่งเพราะลำตัวมันเติบโตขึ้น  เมื่อตัวโตขึ้นก็ต้องเปลี่ยนเปลือกหอย ต้องหาเปลือกหอยหรือที่อยู่ใหม่  ปูเสฉวนเป็นสัตว์กินเนื้อหรือเศษอินทรีย์ตามพื้นทะเลที่อาศัยอยู่  แต่มันก็อาจตกเป็นเหยื่อของผู้ล่ารายอื่นในทะเลได้เช่นกัน 

ปูแต่งตัว
ปูแมลงมุมมีขาเดิน บอบบางและไม่แข็งแรง  ต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอดด้วยการพรางตัวเลียนแบบธรรมชาติ  โดยนำเอาเศษวัสดุจากธรรมชาติมาติดไว้ตามลำตัวเพื่อเป็นกระดอง  ก้ามหรือขาเดิน จึงเรียกปูแมงมุมอีกชื่อหนึ่งว่าปูแต่งตัว  ปูแต่งตัวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่มีสาหร่ายหรือแนวปะการังเป็นที่หลบซ่อน 
ปลาฉลาม
ปลาฉลาม  เป็นปลากระดูกอ่อนจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างโดยรวมเพรียวยาว มีซี่กรองเหงือก 5 ซี่ ครีบทุกครีบแหลมคม ครีบหางเป็นแฉกเว้าลึก มีจุดเด่นคือ ส่วนหัวและจะงอยปากแหลมยาว ปากเว้าคล้ายพระจันทร์เสี้ยวภายในมีฟันแหลมคม  ปลาฉลามแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ปลาฉลามหน้าดินและปลาฉลามกลางน้ำ  ปลาฉลามหน้าดินมักเป็นฉลามที่เชื่องช้า  ชอบหากินอยู่ตามพื้นทะเล  ฉลามหน้าดินจะไม่ดุร้าย   สัตว์ไม่กระดูกสั้นหลังเป็นอาหาร และออกลูกเป็นไข่    ส่วนปลาฉลามกลางน้ำเป็นปลาที่ว่ายน้ำอยู่ตลอด และมักดุร้าย ไล่ล่าปลาชนิดอื่นเป็นอาหาร และออกลูกเป็นตัว ปลาฉลามเป็นปลาที่ว่องไวปราดเปรียว  บางชนิดว่ายน้ำได้เร็วมาก  ปลาฉลามมีอวัยวะรับความรู้สึกอยู่สามแห่งคือ   อวัยวะรับความรู้สึกทางกลิ่น อวัยวะรับสัมผัสทางการมองเห็น และสามคือการอาศัยเส้นข้างลำตัวทำหน้าที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแรงสั้นสะเทือนของคลื่นใต้น้ำในระยะไกล 

ปลากระเบนนก
ปลากระเบนนกเป็นปลากระเบนที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่  มีอยู่หลายชนิด  จะใช้หางเสือว่ายน้ำไปทางทิศทางที่ต้องการ  ปลากระเบนนกจะอาศัยอยู่ตาพื้นทะเล  อาหารที่กินคือสัตว์ขนาดเล็กหรือพวกกุ้งเคย  

 ปลาไหลมอเล่ย์
ปลาไหลมอเล่ย์จัดอยู่ในประเภทที่ไม่มีครีบหู  ตามผิวลำตัวไม่มีเกล็ด  ผิวหนา  มีฟันที่แหลมคม  ปลาไหลมอเล่ย์ค่อนข้างดุหากถูกปุกรุกถึงถิ่นที่อยู่  หรือหากศัตรูเข้าใกล้อาจกัดเช่นเดียวกับงู 


ม้าน้ำ
ม้าน้ำเป็นปลากระดูกแข็ง  มีรูปร่างและพฤติกรรมการผสมพันธุ์ที่แปลกกว่าสัตว์ชนิดอื่น    ม้าน้ำตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะต่างกันคือ   ตัวผู้มีถุงหน้าท้องไว้ฟักไข่จนกระทั่งกลายเป็นตัว  ทำหน้าที่คลอดลูกแทนม้าน้ำตัวเมีย   ม้าน้ำจะชอบอาศัยอยู่ตามเสาโป๊ะ  โพงพาง  หรือหลาบอยู่ตามสาหร่ายทะเลที่ระดับน้ำไม่ลึกมาก   คอยจับสัตว์เล็กๆกินเป็นอาหาร 

 ปลานกแก้ว
ปลานกแก้วเป็นปลาที่มีลักษณะที่คล้ายกับนกแก้ว  มีลำตัวที่สั้นและแบนทางด้านข้าง  หัวค่อนข้างใหญ่  ตาเล็ก  ขากรรไกรบนของปากคล้ายนกแก้ว  มักอาศัยอยู่ตามแนวปะการังหรือเกาะแก่งรอบๆเกาะต่างๆที่น้ำใส  มักอาศัยอยู่โดดเดี่ยวหรือรวมกันเป็นฝูงขนาดย่อม  หาอาหารกินในเวลากลางวันส่วนในเวลากลางคืนจะหลบซ่อนตัวอยู่ตามซอกปะการัง  โดยปล่อยเมือกออกมาหุ้มลำตัวหรือปิดกั้นปากโพรงซอกหินเพื่อป้องกันตัว โดยจะโผล่ส่วนหัวออกมาเพื่อหายใจเพียงเล็กน้อย 
ปลามีดโกน
ปลามีดโกนมีลักษณะลำตัวคล้ายมีดโกน      อาหารของปลามีดโกนโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นแพลงตอนและสัตว์น้ำขนาดเล็ก   ปลามีดโกนมักจะเอาหัวปักลงระหว่างหนามของเม่นทะเล เพราะไม่มีผู้ล่ารายใดจะชอบเข้าไปใกล้หนามของเม่นทะเล  มันจึงปลอดภัยจากการถูกล่า





ปลาผีเสื้อ
ปลาผีเสื้อเป็นปลาสวยงาม อยู่อาศัยตามแนวปะการัง  อาหารของปลาผีเสื้อเป็นสัตว์น้ำจำพวกลูกกุ้ง   หนอน  หอย  ตามพื้นแนวปะการัง ปลาผีเสื้อส่วยใหญ่จะพรางตัวเพื่อไม่ให้ศัตรูเข้าจู่โจมได้ง่ายๆ 

 ปลาการ์ตูน
ปลาการ์ตูนเป็นปลาขนาดเล็ก  อาศัยอยู่ตามดอกไม้ทะเลแถวๆบริเวณปะการังฝั่งทะเลอันดามันปลาการ์ตูนจะมีอุปนิสัยที่เชื่องง่าย 

ปลาสิงโต
ปลาสิงโตมีลำตัวป้อมสั้น  ก้านครีบแข็งของปลาสิงโตทำหน้าที่ป้องกันตัว  ใช้ทิ่มแทงศัตรูที่มารบกวน  บางชนิดมีตอมน้ำพิษอยู่ด้วย จึงเป็นอันตรายมากหากถูกปลาชนิดนี้ตำ  ปลาสิงโตจะอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง  จะว่ายน้ำอย่างเชื่องช้า  หรือจะพักตัวอยู่กับก้อนหินหรือพวกปะการัง  จะกินอาหารโดยจับเหยื่อกลืนเข้าไปทั้งตัว 

ปลาหมอทะเล
 ปลาหมอทะเลเป็นปลากะรังขนาดใหญ่เป็นสัตว์กินเนื้อ  ชอบกินปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร  แต่ไม่ดุร้าย  มักอาศัยอยู่ตามซากโป๊ะ  กองหินใต้น้ำ  ว่ายน้ำไปมาอย่างเชื่องช้าหรือลอยตัวอยู่นิ่งๆ


ปลาตีน
 ปลาตีนสามารถขึ้นมาอาศัยอยู่บนบกได้เป็นเวลานานๆ  ปลาตีนนั้นมีลักษณะที่มีหัวขนาดใหญ่  ลำตัวเรียวเล็กลงไปทางหาง  คล้ายสัตว์เลื้อยคลายจำพวกกิ้งก่า  ปลาตีนจะชอบอาศัยอยู่ตามหาดโคลนริมชายฝั่งที่ทะเลน้ำไม่เค็มจัด 

ปลาปักเป้า
ปลาปักเป้าเป็นปลากระดูกแข็ง ลำตัวสั้นค่อนข้างกลม  พิษของปักเป้าสะสมอยู่บริเวณอวัยวะภายในได้แก่  ลำไส้  ตับ  ไต  ถุงน้ำดี  ไข่  และ

เต่าทะเล
เต่าทะเลเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่มานาน  เต่าทะเลมีการปรับตัวหลายอย่างที่แตกต่างไปจากเต่าบนบก  เต่าทะเลไม่มีฟันซี่มีแต่ขากรรไกร  ใช้ขบกัดสัตว์มีเปลือกให้แตกเพื่อกินเป็นอาหาร 

พะยูน
พะยูนหรือเงือกเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม    มีลำตัวอ้วนกลมผิวเรียบสีเทาหือเทาดำ  หัวมนไม่มีใบหูปากกว้าง   มีประสาทเกี่ยวกับการรับฟังได้ดี  ใต้ครีบหูมีเต้านมสองเต้า  ครีบหางแบนขนานกับพื้น  อาหารหลักของพะยูนคือ  หญ้าทะเลและสาหร่ายทะเล  ที่ขึ้นอยู่ริมชายฝั่งทะเลที่เป็นดินทรายปนโคลนออกหากินในเวลากลางวันและกลางคืน     ส่วนมากพะยูนจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งที่มีหญ้าทะเล  พะยูนออกลูกครั้งละ 1 ตัว  พะยูนนั้นมีอยู่สองประเภทใหญ่ๆ  คือดูกอง  เป็นพะยูนพันธุ์ที่พบในทะเลเขตร้อน  แม่น้ำของทวีปอัฟริกาตะวันตก 1 ชนิด  และอีก 2 ชนิดพบทางตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ  อเมริกาใต้และทะเลคาริเบียน 

ปลาสินสมุทร
ปลาสินสมุทรเป็นปลากระดูกแข็งในกลุ่มคลาสปลาหางแฉก-หางพัด  ปลาสินสมุทรเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ (ยาวประมาณ 10-40 เซนติเมตร) มีสีสันสวยงาม ลักษณะของปลาสินสมุทรอีกอย่างคือเป็นปลาประจำถิ่น มีขอบเขตที่อยู่แน่นอน แต่ละชนิดมีอาณาเขตไม่เท่ากัน ยามเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในเขตแดน ปลาสินสมุทรมักว่ายเข้ามาดู 

2.3 ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล

ระบบนิเวศทางทะเล (อังกฤษ: Marine ecosystem) เป็นระบบนิเวศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ของระบบนิเวศในแหล่งน้ำทุกชนิด ซึ่งรู้จักกันดีในพื้นที่ มหาสมุทร, กลุ่มดินเค็ม และ เขตน้ำขึ้น-น้ำลง, ปากแม่น้ำ และ ทะเลสาบน้ำเค็ม, ป่าโกงกาง และ แนวปะการัง, ทะเลน้ำลึก และ สัตว์ทะเลหน้าดิน สามารถเทียบได้กับแหล่งน้ำจืด ซึ่งมีปริมาณเกลือเข้มข้นกว่า ระบบนิเวศทางทะเล ครอบคลุมพื้นที่ 3 ใน 4 ส่วนของโลก ซึ่งถือได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นพืชได้สนับสนุนกันและกันกับสัตว์ ในทางกลับกันเราอาจจะมองเห็นห่วงโซ่อาหารได้หลากหลายอย่าง

บทที่ 3
วิธีดำเนินงานโครงงาน

                ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress

เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลนี้  ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงาน ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.     วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
2.      พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
3.     เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ https://www.blogger.com
4.     เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น http://www.facebook.com http://www.gmail.com  http://www.google.com
5.     บราวเซอร์ที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
6.     Microsoft Word ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
7.     Adobe Photoshop ในการตกแต่งเว็บบล็อก
8.     Microsoft PowerPoint เพื่อนำเสนอ
9.     เครื่องพิมพ์ ในการพิมพ์รูปเล่มโครงงาน

3.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน    
1.     คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน
2.     ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือ เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ว่ามีเนื้อหามากน้อยเพียงใด และต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่างๆ และเก็บข้อมูลไว้เพื่อจัดทำเนื้อหาต่อไป
3.     ศึกษาการสร้างเว็บบล็อกที่สร้างจากเว็บไซต์ จากเอกสารที่ครูประจำวิชากำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค วิธีการสร้างเว็บบล็อก
4.     ปฏิบัติการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล โดยการสมัครสมาชิก และสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างที่เสนอไว้แล้ว ทั้งนี้ได้นำเสนอบทเรียนผ่านเว็บบล็อกที่ชื่อว่า blogger
5.     เรียบเรียงเนื้อหา จัดตกแต่งเว็บบล็อกให้ดูมีความน่าสนใจ
6.     จัดทำรูปเล่มเอกสารรายงานโครงงาน และแผ่นซีดี
7.     จัดทำ Power Point เพื่อนำเสนอ
8.     นำเสนอต่อหน้าชั้นเรียน

บทที่ 5
สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ

                การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger

เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลนี้ สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 สรุปผลการดำเนินการโครงงาน
    การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger  เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลนี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นำเผยแพร่ที่เว็บบล็อกชื่อ blogger ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ ทั้งนี้เว็บบล็อกดังกล่าว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ จะพบว่าโครงงานสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ทำให้ผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล สามารถหาข้อมูลได้ง่ายมากขึ้น และสะดวกขึ้นอีกด้วย

5.2 ข้อเสนอแนะ
1.     เพื่อให้นักเรียน และผู้จัดทำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger  สามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก และพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในกลุ่มให้มีความชำนาญขึ้นนั้น อาจจะจัดชมรมเพื่อสอนการทำเว็บไซต์
2.     การทำเว็บบล็อก นับว่าเป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และมีความสามารถในการจัดทำเว็บบล็อก และ ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ที่นำไปต่อยอดอีกด้วย

3.     ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
4.     สมาชิกหลายคนไม่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตที่บ้านได้ ทำให้การติดต่อสื่อสารบางอย่างเป็นไปได้ช้า
5.     เครื่องคอมพิวเตอร์ขาดโปรแกรมที่ต้องใช้ในการทำงาน ทำให้ต้องหาโปรแกรมเพิ่ม , ไปทำงานที่ร้านอินเตอร์เน็ต หรือ ทำในคาบเรียนโรงเรียน
6.     ไม่ค่อยมีเวลาทำงานเต็มที่นัก เนื่องจากการบ้านมีหลายวิชา จึงทำให้งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร


                                                            บรรณานุกรม

Ex teen.สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล,2552.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,จาก

http://animal2555.exteen.com/20111227/entry

Lalita.สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก,2554.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,จาก

http://lalita0816015476.blogspot.com/th

The Sea.สิ่งมีชีวิต-สัตว์ทะเล,2557.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,จาก

https://amazingthesea.wordpress.com

kukkikzani.ธรรมชาติใต้ท้องทะเล,2556.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,

จาก https://kukkikzani.wordpress.com/category