บทนำ
น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตในโลกของเรา
จะมีน้ำมากกว่าพื้นดิน ประมาณ 3:4 โดยมากจะเป็นมหาสมุทรขนาดใหญ่ เช่น
มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก
ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลนานาชนิด คณะผู้จัดทำ
จึงมีความสนใจที่จะศึกษาเรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
แหล่งที่อยู่สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ความสำคัญของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
และได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องระบบนิเวศวิทยาทางทะเล เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
เหมาะแก่การศึกษา และ เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ศึกษา
โดยสามารถนำสิ่งที่ศึกษามาเผยแพร่
เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมากขึ้น
กลุ่มของพวกเราจึงนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้มามาประยุกต์ใช้ทำเป็น
เว็บบล็อก(WebBlog)
ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป blogger เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
เพราะเด็กไทยส่วนใหญ่ชอบที่จะใช้อินเทอร์เน็ตในการทำกิจกรรมต่างๆไม่ว่าเป็น
ฟังเพลง เล่นเกมส์ ดูหนัง หรือ ใช้ในการหาความรู้ต่างๆ
ซึ่งการทำเป็นสื่อในอินเตอร์เน็ตก็จะทำให้ผู้ศึกษาเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น
และสามารถนำข้อมูลจากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย ภายในเว็บบล็อก
จะบรรจุไปด้วยเนื้อหาสาระสำคัญของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ทั้งประวัติความเป็นมา
ความสำคัญ ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล และเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ที่สามารถที่จะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก
และ เยาวชน ผู้ปกครอง และบุคคลอื่นๆโดยทั่วกัน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
2. ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
3. เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
สมมติฐานของการศึกษาโครงงาน
เด็กไทยได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลลึก
ขอบเขตของโครงงาน
1. 1.จัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
blogger เรื่องสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
ประเภทพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
2. วัสดุ
อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่
2.1 คอมพิวเตอร์ เชื่อมอินเทอร์เน็ต
2.3 Microsoft
Word ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
2.4 เครื่องพิมพ์
ในการพิมพ์รูปเล่มโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ใต้ท้องทะเลลึก
2. สามารถพัฒนาต่อยอดในการศึกษาได้
3. เป็นแหล่งความรู้ที่ง่ายต่อการค้นหา
4. ได้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ
5. ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นำมาเป็นบทเรียนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่องสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
6. ได้รับความรู้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย
blogger เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์
เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
บทที่
2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger
เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล นี้
ผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชิวตใต้ท้องทะเล
2.2 ความสำคัญของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
2.3 ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล
2.1
ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชิวิตใต้ท้องทะเล
สิ่งมีชิวิตใต้ท้องทะเล
สามารถแบ่งแหล่งที่อยู่ได้เป็น 7
หัวข้อใหญ่ ได้แก่
2.1.1
สัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตนํ้าขึ้นนํ้าลง
2.1.2 ปลาในแนวปะการัง
2.1.3
การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต
2.1.4
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังนํ้าเค็ม
2.1.5 ปลาเศรษฐกิจ สามารถแบ่งออกเป็น 2 พวก คือ
·
พวกที่นำมาเป็นอาหาร
·
พวกที่นำมาเลี้ยงเพื่อความสวยงาม
2.1.6
ปลารูปร่างแปลกและปลามีพิษ
2.1.7 ปลาที่อาศัยในมหาสมุทร
2.2 สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
สัตว์ทะเล
ฟองน้ำทะเล
ฟองน้ำฟองน้ำเป็นสัตว์ทะเลประเภทหนึ่งมีเซลล์จัดเรียงตัวกันอย่างหลวมๆสองชั้น รูปร่างมีความต่างกันมาก บางชนิดแผ่คลุมไปบนพื้นหินและซอกปะการัง บางชนิดเป็นรูปเจกันคล้ายครก ขนาดของฟองน้ำมีความแตกต่างกัน บางชนิดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร
จนถึงขนาดใหญ่กว่า 1
เซนติเมตร
อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่มีพื้นสภาพต่างกัน เพศผู้และเพศเมีย
อยู่ภายในตัวเดียวกันแต่เซลล์สืบพันธุ์ทั้งสองเพศ
ขนนกทะเล
ขนนกทะเลจัดอยู่ในกลุ่มซีเลนเตอเรทพวกไฮโตรซัวอาศัยอยู่รวมเป็นโคโลนีที่แตกกิ่งก้านคล้ายกิ่งไม้เล็กๆหรือแตกแขนงคล้ายขนนกตัวขนนกทะเลแต่ละตัวเป็นโพลิปขนาดเล็ก โพลิปจะกินอาหารจำพวกแพลงตอนขนาดเล็กหรืออินทรียวัตถุที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ขนาดของขนนกมีความแตกต่างกัน
ส่วนใหญ่โคโลนีที่คล้ายกิ่งไม้มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร
อาศัยเกาะอยู่ตามปะการังต่างๆ
ขนนกทะเลเป็นสัตว์มีพิษหากสัมผัสกับผิวหนังของเรา จะทำให้เกิดรอยไหม้เป็นผื่นคัน เนื่องจากเข็มพิษจากโพลิปของขนนกทะเลมีน้ำพิษอยู่ด้วย
ปะการังไฟ
ปะการังไฟเป็นไฮโครซัวชนิดหนึ่งพวกเดียวกับขนนกทะเลและสร้างฐานรองรับเป็นหินปูนแข็งและสร้างฐานรองรับโพลิปเป็นหินปูนแข็ง ตัวโพลิปปะการังไฟมีรูปร่างสองแบบ แบบหนึ่งหนึ่งทำหน้าที่จับเหยื่อกินอาหารและมีหนวดเรียกว่าแดดทิลโลซูออยด์ และอีกแบบที่ไม่มีหนวด
มีหน้าที่รับความรู้สึกสัมผัสและสร้างเข็มพิษ ใช้สำหรับฆ่าเหยื่อหรือป้องกันตัว โพลิปแบบนี้เรียกว่าแดดซิลโซลูออยด์ เมื่อเราไปสัมผัสปะการังไฟ น้ำพิษจากเข็มพิษจึงทำให้เกิดอาการคันได้
แมงกะพรุน
แมงกะพรุนทั่วโลกมีอยู่ 200
ชนิด เป็นสัตว์มีโพรงในลำตัว ร่างกายประกอบไปด้วยน้ำส่วนใหญ่
ลักษณะคล้ายก้อนวุ้นเคลื่อนที่ได้
แต่การว่ายน้ำแบบเคลื่อนที่ของแมลงกระพรุนเป็นไปอย่างเชื่อช้าและว่ายไปตามกระแสน้ำสุดแต่คลื่นลมจะพาไป แมงกะพรุนถูกจัดเป็นแพลงตอนชนิดหนึ่งและนับเป็นแพลงตอนขนาดใหญ่ บางตัวมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 40 เซนติเมตร
การที่แมงกะพรุนดำรงชีวิตเป็นแพลงตอนและล่องลอยไปตามคลื่นลมนี้เอง
ช่วงฤดูร้อนที่มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าสู่ภาคตะวันออกของอ่าวไทย
จึงมีแมงกะพรุนชุกชุมอยู่ตามชายทะเลแถบภาคตะวันออกดังนั้นการเล่นน้ำตามสถานตากอากาศแถบบางแสน พัทยา
ระยอง
จึงอาจถูกแมงกะพรุนไฟได้
รูปร่างแมงกะพรุนมีลักษณะคล้ายร่ม
ทางด้านนอกของร่มเป็นรูปโค้งผิวเรียบ
ด้านใต้มีปากอยู่ตรงกลางและมีส่วนยื่นรอบปากออกไป
แมงกะพรุนทุกชนิดมีพิษพบมากบริเวณหนวดและส่วนยื่นรอบปาก เมื่อได้รับการกระตุ้นโดยการสัมผัส
เข็มพิษจะถูกปล่อยออกมาคล้ายฉมวกพุ่งแทงเข้าไปที่ผิวหนังของเหยื่อหรือศัตรู น้ำพิษที่อยู่ภายในกระเปาะอาจทำให้เหยื่อขนาดเล็กสลบและตายได้ ตามปกติแมงกะพรุนเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารที่กินได้แก่ ปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กที่อาศัยตามผิวทะเลโดยแมงกะพรุนใช้เข็มพิษฆ่าเหยื่อ
และรวบจับใส่ปากเข้าไปย่อยภายในท่อทางเดินอาหาร ส่วนกากอาหารที่ย่อยไม่ได้จะถูกคายทางปาก
แมงกะพรุนส่วนใหญ่มีเพศแยกกันเป็นตัวผู้และตัวเมีย
แต่ต่างจากรูปร่างภายนอกไม่ปรากฏลักษณะที่แตกต่างกันชัดเจน การผสมพันธุ์เกิดโดยตัวผู้สร้างเสปิร์มส่งออกไปผสมกับไข่ตัวเมีย หรืออาจเป็นการผสมกันภายนอกลำตัว
ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะเจริญพัฒนาเป็นตัวอ่อน ดำรงชีวิตเป็นแพลงตอนชั่วคราว
แล้วจากนั้นจะว่ายไปเกาะพื้นเปลี่ยนรูปร่างเป็นโพลิปสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศด้วยการแบ่งตัวออกเป็นชั้นๆ
หลุดไปเป็นแมงกระพรุนตัวเล็กๆแล้วเติบโตเป็นตัวเต็มไว้ในเวลาต่อมา (สุรินทร์ มัจฉาชีพ,2518)
ดอกไม้ทะเล
ดอกๆไม้ทะเลจะมีรูปร่างเป็นทรงกระบอก มีหนวดจำนวนมากเรียงรายกันอยู่ด้านบน
ส่วนทางด้านล่างเป็นฐานใช้ยึดเกาะติดกับวัตถุใต้น้ำ ขนาดของดอกไม้ทะเลแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตั้งแต่ตัวเล็กกว่า
1 เซนติเมตร
จนถึงขนาดใหญ่กว่าครึ่งเมตร
อาหารของดอกไม้ทะเลได้แก่
ปลาหรือสัตว์ทะเลชนิดอื่นที่ว่ายเข้ามาในระยะที่หนวดจับได้ ดอกไม้ทะเลจะปล่อยนีมาโตซีสออกมาทำให้เหยื่อสลบ แล้วรวบเข้าปากที่อยู่ตรงกลาง ดอกไม้ทะเลนั้นจะมีถิ่นที่อยู่อาศัยแตกต่างกัน
บางชนิดที่อยู่ในเขตน้ำขึ้นน้ำลงจะมีความทนทานต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ดีทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงความชื้น ความเค็มและอุณหภูมิรวมทั้งความสามารถในการอยู่บนบกได้เป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมงขณะที่น้ำทะเลลดลงด้วย เราจึงมักพบดอกไม้ทะเลเกาะอยู่ตามก้อนหินริมชายฝั่งโดยหดตัวเป็นก้อนกลม
เพื่อรอให้น้ำทะเลท่วมบริเวณที่อาศัยอยู่อีกครั้งหนึ่ง
กัลปังหา
กัลปังหา กัลปังหาเป็นสัตว์ทะเลพวกเดียวกับปะการัง
ทุกชนิดอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนีแตโพลิปมีหนวดแปดเส้นรอบปาก หนวดแต่ละเส้นมีแขนงแตกออกคล้ายใบปรงหรือเฟริ์น กัลปังหากินแปลงตอนเป็นอาหาร โดยใช้หนวดรวบใส่ปากตรงกลาง การย่อยเกิดในกระเพาะที่มีลักษณะเป็นถุง หลังจากย่อยแล้งกากอาหารจะถูกคายออกทางปาก
กัลปังหานั้นจะอาศัยอยู่ตามแนวปะการังหรือกองหินใต้น้ำเท่านั้นเพราะต้องการยึดเกาะกับพื้นแข็งแต่จะไม่สามารถงอกอยู่ที่พื้นทรายหรือโคนได้ และการที่กัลปังหามีการแตกกิ่งก้านออกไป
สัตว์หลายชนิดจึงมักมาอาศัยพึงพาอยู่กับกัลปังหา เช่นปลาสลิดหินขนาดเล็ก ใช้เป็นที่หลบกำบังศัตรู หอยสองกาบใช้กัลปังหาเป็นที่ยึดเกาะ ดาวตาข่าย
ดาวขนนก กุ้งขนาดเล็ก
ใช้กัลปังหาเป็นที่เกาะสำหรับคอยดักจับอาหารที่ลอยมากับน้ำ
ปากกาทะเล
มีลักษณะใกล้เคียงกับปะการังอ่อน
ปากกาทะเลทุกชนิดอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนีเช่นเดียวกับกัลปังหาและปะการังอ่อน
ด้านล่างเป็นด้ามใช้สำหรับฝังลงในพื้นทะเลที่เป็นดินโคลน หรือโคลนปนทราย ส่วนบนที่อยู่ของโพลิบรูปร่างเป็นทรงกระบอก
สามารถยืดหดตัวจากเนื้อเยื่อของโคโลนีเพื่อจับเหยื่อ แต่ละโคโลนีมีโพลิปหรือตัวปากกาทะเลนับร้อยตัว
แม่เพรียง
เป็นหนอนปล้องที่มีลำตัวเรียวยาว ร่างกายค่อนข้างแบนออกเป็นปล้องจำนวนมาก ด้านหน้ามีลักษณะคล้ายหัวโดยมีปากและเขี้ยว 1 คู่ที่ปาก
มีอวัยวะรับสัมผัสคล้ายหนวด
ถัดจากหัวและลำตัวมีลักษณะเป็นปล้องขนาดเท่าๆกัน อาหารที่แม่เพียงชอบกินได้แก่สาหร่ายทะเล เศษอินทรีย์ตามพื้นทะเล
แม่เพรียงเป็นสัตว์แยกเพศแต่ละตัวมีเพียงเพศเดียวโดยอาจมีการเปลี่ยนรูปร่างและสีของลำตัวในช่วงฤดูผสมพันธุ์ บางชนิดมีการปล่อยร่างกายตอนปลายที่มีเซล,สืบพันธุ์ให้หลุดขาดออกไปทำให้เซลล์สืบพันธ์ผสมกันในน้ำทะเล
หนอนดอกไม้
หนอนดอกไม้เป็นหนอนปล้องที่มีลำตัวเป็นท่อนยาวแบ่งออกเป็นปล้องชัดเจน
มีการสร้างหลอดด้วยตะกอนดินหรือเศษวัสดุเล็กๆตามพื้นทะเล
บางชนิดสกัดสารออกมาละลายหินปะการังแล้วฝังตัวอยู่ภายใน
ช่อพู่ขนของหนอนดอกไม้หลายชนิดมีสีสันสวยงาม หลากสี
นอกจากพู่ขนแล้วหนอนดอกไม้บางชนิดมีงวงยื่นออกมาจากหลอดทำหน้าที่ปิดปากหลอดขณะที่หดตัวเอาพู่ขนหลบเข้าไปข้างใน
การทำงานของงวงปิดหลอดนี้มีรูปแบบคล้ายกับหอยกาบเดี่ยวที่มีแผ่นฝาปิดปาก เมื่อหดตัวเข้าไปอยู่ภายในเปลือก หนอนดอกไม้เป็นสัตว์แยกเพศ
การปฏิสนธิระหว่างเสปิร์มกับไข่เกิดภายนอกลำตัวโดยการผสมกันในน้ำทะเล (สุรินทร์ มัจฉาชีพ,2518)
ลิ่นทะเล
ลิ่นทะเลเรียกอีกอย่างว่า “หอยแปดเกล็ด” จัดเป็นสัตว์ที่มีลำตัวอ่อนนิ่มหรือมอลลัสเช่นเดียวกับหอยและหมึกทั่วไป รูปร่างคล้ายกับทากดิน
ไม่มีส่วนหัวและห่างที่ชัดเจนลำตัวเป็นรูปไข่ ด้านบนโค้งนู้น และมีเปลือกคล้ายเกล็ดจำนวน 8
แผ่นเรียงซ้อนกันจากด้านหน้าไปยังด้านท้ายคล้ายกระเบื้องมุงหลังคายกเว้นบางชนิดเกล็ดอาจเรียงต่อกันเป็นแถวๆรอบๆเกล็ดเป็นแมนเทิลที่ปกคลุมด้วยหนามสั้นๆ
ด้านล่างตรงกลางมีกล้ามเนื้อเท้ารูปไข่เป็นพื้นแบนเรียบช่วยในการเคลื่อนที่ ปากของลิ่นทะเลอยู่ด้านหน้า ภายในปากมีแผ่นลิ้นใช้ในการขูดสาหร่าย ไลเคนซ์กินอาหาร
ที่อยู่ของลิ่นทะเลสามารถพบได้ตามโขดหินริมชายฝั่งทะเลและรอบเกาะ
ทากทะเล
ทากทะเลเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกหอยกาบเดียวมีรูปร่างลีสันที่แปลกตา จึงได้รับสมญานามว่า ราชินีแห่งท้องทะเล ทากทะลอาศัยอยู่ตามแนวปะการังที่มีฟองน้ำหรือสาหร่ายทะเลชุกชุม เพราะฟองน้ำเป็นอาหารที่ทากชอบกิน
ทากชอบกินอาหารที่มีรสและกลิ่นที่ไม่ค่อยเหมือนสัตว์อื่น ทากทะเลสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศบางชนิดมีทั้งเพศเดียวกันในตัวเดียวกัน บางชนิดแยกเพศ
หอยฟองน้ำ
หอยฟองน้ำหรือที่เรียกทั่วไปว่าหอยม่วง จัดอยู่ในกลุ่มหอยกาบเดี่ยว รูปร่างคล้ายหอยโข่ง มีเปลืองม่วงขนาดประมาณ 2-3
เซนติเมตร
เป็นหอยที่สร้างฟองอากาศเป็นทุ่นลอยตัวไปตามผิวทะเลและจัดเป็นแพลงตอนชนิดหนึ่ง เมื่อถูกคลื่นลมพัดเข้าสู่ชายฝั่ง จึงถูกซัดขึ้นมาเกยแห้งอยู่บริเวณริมหาด พบอยู่ทั่วไปตามทะเลเขตร้อน หอยฟองน้ำเป็นสั่ตว์กินเนื้อ
ขณะที่ล่องลอยไปตามผิวทะเลจะจับแพลงตอนสัตว์อื่นๆกินเป็นอาหาร เช่นแมงกระพรุนเหรียญ
หอยเต้าปูน
หอยเต้าปูนหรือหอยมรณะ มีลักษณะเป็นรูปกรวย คล้ายถ้วยไอติมโคลนเปลือกมักหนาและหนัก หอยชนิดนี้ชอบล่าสัตว์กินเป็นอาหาร
โดยอาศัยพิษจากภายในลำตัวฆ่าเหย่อให้ตายก่อนจับกินเป็นอาหาร พิษของหอยเต้าปูนเป็นสารประกอบจำพวกโปรตีนในถุงน้ำพิษ
บีบตัวส่งไปทางท่อน้ำพิษผ่านไปยังคอหอยซึ่งมีแผงฟัน ทำให้น้ำพิษเคลือบเข็มพิษซึ่งจะพุ่งออกไปคล้ายฉมวก หอยเต้าปูนมีมากกว่า 400 ชนิดทั่วโลก
พบอาศัยอยู่ในมหาสมุทรต่างๆ
โดยเฉพาะเขตอินโดแปซิฟิกรวมทั้งในน่านน้ำไทยด้วย หอยเต้าปูนที่มีพิษได้แก่ หอยเต้าปูนลายผ้า หอยเต้าปูนลายแผนที่ หอยเต้าปูนลายหินอ่อนเป็นต้น
หอยแต่งตัว
หอยแต่งตัวเป็นหอยกาบเดียวรูปฝาชี มียอดเป็นมุมป้าน รูปร่างคล้ายหมวกเวียดนาม จัดอยู่ในวงเดียวกับหอยหมวก เปลือกมักมีสีครีมและสีเหลืองอ่อน
และมีเปลือกหอยชนิดอื่นติดไว้ตามเปลือกของตัวเอง
พฤติกรรมนี้เป็นการกระทำเพื่อปรับตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่หอยชนิดนี้อาศัยอยู่ตามแนวปะการังที่มีเศษวัสดุจำวกเปลือกหอยหรือซากปะการังกองทับถมกันอยู่
หอยแต่งตัวพบใกล้ชายฝั่งบริเวณแนวปะการังมีอยู่ไม่มากนัก
ดาวทะเล
ดาวทะเลเป็นสัตว์มีหนาม
ร่างกายจะประกอบไปด้วยแผ่นกลางลำตัวและแขนที่ยืนออกไปจากส่วนกลางเป็นรัศมี จำนวนแขนของดาวทะเลส่วนใหญ่มี 5 แฉก
น้อยมากที่จะพบ 8
แฉก
ตามผิวของลำตัวจะมีหนามขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน มีปากอยู่ตรงกลางด้านล่าง
ดาวทะเลเคลื่อนที่โดยอาศัยท่อน้ำทำให้เกิดแรงดันเข้าไปในเท้าท่อ
ระบบท่อน้ำประกอบไปด้วยท่อตะแกรงอยู่บนแผ่นกลางตัวระหว่างแขนคู่หนึ่ง น้ำแนวรัศมีจะไหลลงสู่ท่อน้ำวงแหวนและแยกออกไปในแนวรัศมีสู่เท้าท่อที่ยืดหดได้
ตรงปลายของเท้าท่อมีปุ่มดูดช่วยในการยึดเกาะได้ดี การเคลื่อนที่ของดาวทะเลเป็นไปอย่างเชื่องช้า อาหารที่ดาวทะเลกินคือ เนื้อสัตว์ตามพื้นทะเล
ดาวทะเลหายใจโดยใช้เหงือกที่เป็นลักษณะกลุ่มขนสั้นๆอยู่รวมกันเป็นกระจุก ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนกับน้ำทะเล ดาวทะเลสามารถอดอาหารนานๆได้ หากถูกทำร้ายจนร่างกายแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนที่ขาดไปสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้
เม่นทะเล
เม่นทะเลเป็นทรงกลม รูปไข่
ภายนอกมีหนามอยู่รอบๆอาศัยอยู่ที่พื้นทะเลใต้น้ำตื้นบ้างลึกบ้างตามก้อนหินหรือแนวปะการังชอบพรางตัวอยู่บริเวณปะการังที่ตายแล้วมีหนามจำนวนมากขนาดยาวสั้นไม่เท่ากันเพื่อเป็นอาวุธป้องกันตัว
เม่นทะเลเคลื่อนที่ได้ช้าๆชอบไต่ไปตามก้อนหิน อาหารของเม่นทะเลคือ
สาหร่ายที่เกาะติดอยู่ตามก้อนหินหรือแนวปะการัง หนามของเม่นทะเล มีฐานเป็นรูปถ้วยยืดติดอยู่กับปมบนแผ่นเปลือกทำให้หนามเคลื่อนไหวไปมาได้ทุกทิศทางหนามแหลมด้านบนของตัวเม่นทะเลมีขนาดยาวกว่าหนามด้านล่างหลายเท่า
ส่วนหนามที่อยู่ด้านล่างของลำตัวจะสั้นกว่า ช่วยในการเคลื่อนที่ (สุรินทร์ มัจฉาชีพ,2518)
ปลิงทะเล
ปลิงทะเลเรียกอีกอย่างว่าแตงกวาทะเล
เพราะลำตัวเป็นท่อนสั้นบ้างยาวบ้าง
อ่อนนุ่มยืดหดได้
บางชนิดมีหนามแข็งบริเวณผิวหนัง
ด้านปากถือว่าเป็นส่วนหัว
โดยมีหนวดอยู่รอบปากใช้ในการจับเหยื่อและอาหาร ส่วนอีกด้านจะเป็นด้านที่เอาไว้ขับถ่าย ปลิงทะเลบางชนิดกินอินทรียวัตถุบางชนิดกินแพลงค์ตอนและสารแขวงลอยในน้ำ
ปลิงทะเลส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลน หรือดินทราย
แต่ละชนิดจะเลือกถิ่นที่อาศัยต่างกันไป
ปลิงทะเลเมื่อถูกรบกวนจะปล่อยเส้นใยสีขาวที่เรียกว่า “ท่อของคูเวียร์” ออกมาป้องกัน
เพื่อทำให้ศัตรูตกใจหรือพันลำตัวของศัตรู
เส้นใยนี้จะเหนียวเมื่อผสมกับน้ำทะเล
ดาวขนนก
ดาวขนขนมีรูปร่างที่คล้ายกับต้นปรง
ร่างกายประกอบด้วยแผ่นกลางตัวขนาดเล็กและมีแขนยื่นยาวออกไปโดยรอบ แต่ละแขนจะมีแขนงแยกออกไปคล้ายใบ ด้านล่างจะมีแขนงยื่นออกไปทำหน้าที่ยึดเกาะกับพื้นและจะเคลื่อนย้ายที่อยู่ในอย่างเชื่องช้า แต่ปกติมักจะอยู่กับที่
ดาวขนนกกินแพลงตอนและสารอินทรีย์ในน้ำทะเลเป็นอาหาร
โดยการใช้แขนงบนแขนรวบรวมอาหารให้เคลื่อนที่จากร่องแขนลงสู่ปากที่อยู่ตรงกลางของแผ่นกลางตัว
ส่วนใหญ่ดาวขนนกนั้นจะอาศัยอยู่ตามแถวแนวปะการัง โดยจะเกาะอยู่บนปะการัง บางครั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันหลายตัว
กั้งตั๊กแตน
กั้งตั๊กแตนเป็นสัตว์กินเนื้อ ล่าเหยื่อโดยการใช้ก้ามเกี่ยว อาหารของกั้งได้แก่ พวกกุ้งหอย ปลาตัวเล็กๆ
กั้งแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่ที่แตกต่างกัน
โดยกั้งจะขุดรูที่มีทางออกทางเข้าได้ทั้งสองทางซึ่งต่างจากกุ้งตรงที่มักจะฝังตัว
กั้งจะเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆเพราะไม่ชอบว่ายน้ำ
แต่ถ้าเมื่อไรที่กั้งถูกรบกวนก็จะงอตัว
ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างปูกับกุ้ง
กระดองของปูเสฉวนนั้นจะมีความยาวมากกว่าความกว้าง ก้ามสองข้างไม่เท่ากัน ปูเสฉวนจะอาศัยอยู่ในเปลือกหอยขนาดที่พอเหมาะกับลำตัวได้แค่ชั่วเวลาหนึ่งเพราะลำตัวมันเติบโตขึ้น เมื่อตัวโตขึ้นก็ต้องเปลี่ยนเปลือกหอย
ต้องหาเปลือกหอยหรือที่อยู่ใหม่
ปูเสฉวนเป็นสัตว์กินเนื้อหรือเศษอินทรีย์ตามพื้นทะเลที่อาศัยอยู่ แต่มันก็อาจตกเป็นเหยื่อของผู้ล่ารายอื่นในทะเลได้เช่นกัน
ปูแต่งตัว
ปูแมลงมุมมีขาเดิน บอบบางและไม่แข็งแรง
ต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอดด้วยการพรางตัวเลียนแบบธรรมชาติ
โดยนำเอาเศษวัสดุจากธรรมชาติมาติดไว้ตามลำตัวเพื่อเป็นกระดอง ก้ามหรือขาเดิน
จึงเรียกปูแมงมุมอีกชื่อหนึ่งว่าปูแต่งตัว
ปูแต่งตัวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่มีสาหร่ายหรือแนวปะการังเป็นที่หลบซ่อน
ปลาฉลาม
ปลาฉลาม
เป็นปลากระดูกอ่อนจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างโดยรวมเพรียวยาว มีซี่กรองเหงือก 5 ซี่ ครีบทุกครีบแหลมคม ครีบหางเป็นแฉกเว้าลึก
มีจุดเด่นคือ ส่วนหัวและจะงอยปากแหลมยาว
ปากเว้าคล้ายพระจันทร์เสี้ยวภายในมีฟันแหลมคม
ปลาฉลามแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ
ปลาฉลามหน้าดินและปลาฉลามกลางน้ำ
ปลาฉลามหน้าดินมักเป็นฉลามที่เชื่องช้า
ชอบหากินอยู่ตามพื้นทะเล ฉลามหน้าดินจะไม่ดุร้าย สัตว์ไม่กระดูกสั้นหลังเป็นอาหาร
และออกลูกเป็นไข่
ส่วนปลาฉลามกลางน้ำเป็นปลาที่ว่ายน้ำอยู่ตลอด และมักดุร้าย
ไล่ล่าปลาชนิดอื่นเป็นอาหาร และออกลูกเป็นตัว
ปลาฉลามเป็นปลาที่ว่องไวปราดเปรียว
บางชนิดว่ายน้ำได้เร็วมาก
ปลาฉลามมีอวัยวะรับความรู้สึกอยู่สามแห่งคือ อวัยวะรับความรู้สึกทางกลิ่น
อวัยวะรับสัมผัสทางการมองเห็น และสามคือการอาศัยเส้นข้างลำตัวทำหน้าที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับแรงสั้นสะเทือนของคลื่นใต้น้ำในระยะไกล
ปลากระเบนนก
ปลากระเบนนกเป็นปลากระเบนที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ มีอยู่หลายชนิด จะใช้หางเสือว่ายน้ำไปทางทิศทางที่ต้องการ ปลากระเบนนกจะอาศัยอยู่ตาพื้นทะเล อาหารที่กินคือสัตว์ขนาดเล็กหรือพวกกุ้งเคย
ปลาไหลมอเล่ย์
ปลาไหลมอเล่ย์จัดอยู่ในประเภทที่ไม่มีครีบหู ตามผิวลำตัวไม่มีเกล็ด ผิวหนา
มีฟันที่แหลมคม ปลาไหลมอเล่ย์ค่อนข้างดุหากถูกปุกรุกถึงถิ่นที่อยู่ หรือหากศัตรูเข้าใกล้อาจกัดเช่นเดียวกับงู
ม้าน้ำ
ม้าน้ำเป็นปลากระดูกแข็ง มีรูปร่างและพฤติกรรมการผสมพันธุ์ที่แปลกกว่าสัตว์ชนิดอื่น
ม้าน้ำตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะต่างกันคือ
ตัวผู้มีถุงหน้าท้องไว้ฟักไข่จนกระทั่งกลายเป็นตัว ทำหน้าที่คลอดลูกแทนม้าน้ำตัวเมีย ม้าน้ำจะชอบอาศัยอยู่ตามเสาโป๊ะ โพงพาง
หรือหลาบอยู่ตามสาหร่ายทะเลที่ระดับน้ำไม่ลึกมาก คอยจับสัตว์เล็กๆกินเป็นอาหาร
ปลานกแก้ว
ปลานกแก้วเป็นปลาที่มีลักษณะที่คล้ายกับนกแก้ว มีลำตัวที่สั้นและแบนทางด้านข้าง หัวค่อนข้างใหญ่ ตาเล็ก
ขากรรไกรบนของปากคล้ายนกแก้ว
มักอาศัยอยู่ตามแนวปะการังหรือเกาะแก่งรอบๆเกาะต่างๆที่น้ำใส มักอาศัยอยู่โดดเดี่ยวหรือรวมกันเป็นฝูงขนาดย่อม
หาอาหารกินในเวลากลางวันส่วนในเวลากลางคืนจะหลบซ่อนตัวอยู่ตามซอกปะการัง โดยปล่อยเมือกออกมาหุ้มลำตัวหรือปิดกั้นปากโพรงซอกหินเพื่อป้องกันตัว
โดยจะโผล่ส่วนหัวออกมาเพื่อหายใจเพียงเล็กน้อย
ปลามีดโกน
ปลามีดโกนมีลักษณะลำตัวคล้ายมีดโกน
อาหารของปลามีดโกนโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นแพลงตอนและสัตว์น้ำขนาดเล็ก
ปลามีดโกนมักจะเอาหัวปักลงระหว่างหนามของเม่นทะเล
เพราะไม่มีผู้ล่ารายใดจะชอบเข้าไปใกล้หนามของเม่นทะเล มันจึงปลอดภัยจากการถูกล่า
ปลาผีเสื้อ
ปลาผีเสื้อเป็นปลาสวยงาม
อยู่อาศัยตามแนวปะการัง
อาหารของปลาผีเสื้อเป็นสัตว์น้ำจำพวกลูกกุ้ง หนอน
หอย ตามพื้นแนวปะการัง ปลาผีเสื้อส่วยใหญ่จะพรางตัวเพื่อไม่ให้ศัตรูเข้าจู่โจมได้ง่ายๆ
ปลาการ์ตูน
ปลาการ์ตูนเป็นปลาขนาดเล็ก
อาศัยอยู่ตามดอกไม้ทะเลแถวๆบริเวณปะการังฝั่งทะเลอันดามันปลาการ์ตูนจะมีอุปนิสัยที่เชื่องง่าย
ปลาสิงโต
ปลาสิงโตมีลำตัวป้อมสั้น
ก้านครีบแข็งของปลาสิงโตทำหน้าที่ป้องกันตัว ใช้ทิ่มแทงศัตรูที่มารบกวน บางชนิดมีตอมน้ำพิษอยู่ด้วย จึงเป็นอันตรายมากหากถูกปลาชนิดนี้ตำ ปลาสิงโตจะอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง จะว่ายน้ำอย่างเชื่องช้า หรือจะพักตัวอยู่กับก้อนหินหรือพวกปะการัง จะกินอาหารโดยจับเหยื่อกลืนเข้าไปทั้งตัว
ปลาหมอทะเล
ปลาหมอทะเลเป็นปลากะรังขนาดใหญ่เป็นสัตว์กินเนื้อ ชอบกินปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร แต่ไม่ดุร้าย
มักอาศัยอยู่ตามซากโป๊ะ
กองหินใต้น้ำ
ว่ายน้ำไปมาอย่างเชื่องช้าหรือลอยตัวอยู่นิ่งๆ
ปลาตีน
ปลาตีนสามารถขึ้นมาอาศัยอยู่บนบกได้เป็นเวลานานๆ ปลาตีนนั้นมีลักษณะที่มีหัวขนาดใหญ่ ลำตัวเรียวเล็กลงไปทางหาง คล้ายสัตว์เลื้อยคลายจำพวกกิ้งก่า
ปลาตีนจะชอบอาศัยอยู่ตามหาดโคลนริมชายฝั่งที่ทะเลน้ำไม่เค็มจัด
ปลาปักเป้า
ปลาปักเป้าเป็นปลากระดูกแข็ง
ลำตัวสั้นค่อนข้างกลม
พิษของปักเป้าสะสมอยู่บริเวณอวัยวะภายในได้แก่ ลำไส้
ตับ ไต ถุงน้ำดี
ไข่ และ
เต่าทะเล
เต่าทะเลเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่มานาน
เต่าทะเลมีการปรับตัวหลายอย่างที่แตกต่างไปจากเต่าบนบก เต่าทะเลไม่มีฟันซี่มีแต่ขากรรไกร ใช้ขบกัดสัตว์มีเปลือกให้แตกเพื่อกินเป็นอาหาร
พะยูน
พะยูนหรือเงือกเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีลำตัวอ้วนกลมผิวเรียบสีเทาหือเทาดำ หัวมนไม่มีใบหูปากกว้าง มีประสาทเกี่ยวกับการรับฟังได้ดี ใต้ครีบหูมีเต้านมสองเต้า ครีบหางแบนขนานกับพื้น อาหารหลักของพะยูนคือ หญ้าทะเลและสาหร่ายทะเล
ที่ขึ้นอยู่ริมชายฝั่งทะเลที่เป็นดินทรายปนโคลนออกหากินในเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนมากพะยูนจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งที่มีหญ้าทะเล พะยูนออกลูกครั้งละ 1 ตัว
พะยูนนั้นมีอยู่สองประเภทใหญ่ๆ
คือดูกอง
เป็นพะยูนพันธุ์ที่พบในทะเลเขตร้อน
แม่น้ำของทวีปอัฟริกาตะวันตก 1
ชนิด และอีก 2 ชนิดพบทางตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้และทะเลคาริเบียน
ปลาสินสมุทร
ปลาสินสมุทรเป็นปลากระดูกแข็งในกลุ่มคลาสปลาหางแฉก-หางพัด ปลาสินสมุทรเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ (ยาวประมาณ 10-40 เซนติเมตร) มีสีสันสวยงาม
ลักษณะของปลาสินสมุทรอีกอย่างคือเป็นปลาประจำถิ่น มีขอบเขตที่อยู่แน่นอน
แต่ละชนิดมีอาณาเขตไม่เท่ากัน ยามเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในเขตแดน ปลาสินสมุทรมักว่ายเข้ามาดู
2.3
ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล
ระบบนิเวศทางทะเล (อังกฤษ: Marine ecosystem) เป็นระบบนิเวศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ของระบบนิเวศในแหล่งน้ำทุกชนิด ซึ่งรู้จักกันดีในพื้นที่ มหาสมุทร, กลุ่มดินเค็ม และ เขตน้ำขึ้น-น้ำลง, ปากแม่น้ำ และ ทะเลสาบน้ำเค็ม, ป่าโกงกาง และ แนวปะการัง, ทะเลน้ำลึก และ สัตว์ทะเลหน้าดิน
สามารถเทียบได้กับแหล่งน้ำจืด ซึ่งมีปริมาณเกลือเข้มข้นกว่า ระบบนิเวศทางทะเล
ครอบคลุมพื้นที่ 3 ใน
4 ส่วนของโลก
ซึ่งถือได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นพืชได้สนับสนุนกันและกันกับสัตว์
ในทางกลับกันเราอาจจะมองเห็นห่วงโซ่อาหารได้หลากหลายอย่าง
บทที่ 3
วิธีดำเนินงานโครงงาน
ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
WordPress
เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลนี้ ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงาน
ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.
วัสดุ อุปกรณ์
เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
2. พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3.
เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ https://www.blogger.com
4.
เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น http://www.facebook.com
http://www.gmail.com
http://www.google.com
5.
บราวเซอร์ที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
6.
Microsoft Word ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
7.
Adobe Photoshop ในการตกแต่งเว็บบล็อก
8.
Microsoft PowerPoint เพื่อนำเสนอ
9.
เครื่องพิมพ์ ในการพิมพ์รูปเล่มโครงงาน
3.2
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1.
คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน
2.
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ
คือ เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ว่ามีเนื้อหามากน้อยเพียงใด
และต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่างๆ และเก็บข้อมูลไว้เพื่อจัดทำเนื้อหาต่อไป
3.
ศึกษาการสร้างเว็บบล็อกที่สร้างจากเว็บไซต์
จากเอกสารที่ครูประจำวิชากำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค
วิธีการสร้างเว็บบล็อก
4.
ปฏิบัติการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย blogger เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
โดยการสมัครสมาชิก และสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างที่เสนอไว้แล้ว
ทั้งนี้ได้นำเสนอบทเรียนผ่านเว็บบล็อกที่ชื่อว่า blogger
5.
เรียบเรียงเนื้อหา
จัดตกแต่งเว็บบล็อกให้ดูมีความน่าสนใจ
6.
จัดทำรูปเล่มเอกสารรายงานโครงงาน และแผ่นซีดี
7.
จัดทำ Power Point เพื่อนำเสนอ
8.
นำเสนอต่อหน้าชั้นเรียน
บทที่ 5
สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog)
ด้วย
blogger
เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลนี้
สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 สรุปผลการดำเนินการโครงงาน
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย blogger เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลนี้
ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว
จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นำเผยแพร่ที่เว็บบล็อกชื่อ blogger
ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ
Social Media ประเภทเว็บไซต์ ทั้งนี้เว็บบล็อกดังกล่าว
สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา
เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ จะพบว่าโครงงานสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
ทำให้ผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้เรื่อง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
สามารถหาข้อมูลได้ง่ายมากขึ้น และสะดวกขึ้นอีกด้วย
5.2 ข้อเสนอแนะ
1. เพื่อให้นักเรียน และผู้จัดทำเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย blogger สามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก
และพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในกลุ่มให้มีความชำนาญขึ้นนั้น
อาจจะจัดชมรมเพื่อสอนการทำเว็บไซต์
2. การทำเว็บบล็อก
นับว่าเป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และมีความสามารถในการจัดทำเว็บบล็อก
และ ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ที่นำไปต่อยอดอีกด้วย
3. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
4. สมาชิกหลายคนไม่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตที่บ้านได้
ทำให้การติดต่อสื่อสารบางอย่างเป็นไปได้ช้า
5. เครื่องคอมพิวเตอร์ขาดโปรแกรมที่ต้องใช้ในการทำงาน
ทำให้ต้องหาโปรแกรมเพิ่ม , ไปทำงานที่ร้านอินเตอร์เน็ต หรือ
ทำในคาบเรียนโรงเรียน
6. ไม่ค่อยมีเวลาทำงานเต็มที่นัก
เนื่องจากการบ้านมีหลายวิชา จึงทำให้งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
บรรณานุกรม
Ex teen.สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล,2552.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,จาก
http://animal2555.exteen.com/20111227/entry
Lalita.สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก,2554.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,จาก
http://lalita0816015476.blogspot.com/th
The Sea.สิ่งมีชีวิต-สัตว์ทะเล,2557.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,จาก
https://amazingthesea.wordpress.com
kukkikzani.ธรรมชาติใต้ท้องทะเล,2556.สืบค้นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559,
จาก https://kukkikzani.wordpress.com/category
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น